เรียบเรียงโดย ... | ทีมงานเว็บไซต์กองอุตุนิยมวิทยาการบิน |
พายุฟ้าคะนอง
พายุฟ้าคะนองนี้บางครั้งเรียก พายุไฟฟ้า (electrical storm) โดยทั่วไปเป็นพายุที่เกิดเฉพาะท้องถิ่น
เกิดจากเมฆคิวมูโลนิมบัส มีฟ้าแลบ (lightning) กับฟ้าร้อง (thunder) รวมอยู่ด้วย นอกจากนั้นมักจะมี
ลมกระโชกแรง (strong gust) และฝนตกหนัก (heavy rain) เกิดขึ้น บางครั้งยังมีลูกเห็บ (hail) ตกลงมาด้วย
พายุฟ้าคะนองนี้เป็นพายุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น มีน้อยครั้งที่เกิดขึ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง
พายุฟ้าคะนองเป็นผลเนื่องมาจากในเขตร้อนอากาศมีความชื้นมากและมีอุณหภูมิสูงทำให้อากาศ
ไม่มีเสถียรภาพ (instability) หรือบรรยากาศมีอาการไม่ทรงตัวเกิดการผสมคลุกเคล้าจากข้างล่างขึ้นข้างบน
และจากข้างบนลงข้างล่าง ในขั้นแรกอากาศหรือบรรยากาศเกิดการไหลขึ้นอย่างรุนแรง (strong convective updraft)
และในขั้นต่อมาซึ่งเป็นขั้นสลายตัว (dissipating stage) จะมีกระแสอากาศไหลลงอย่างรุนแรง (strong downdraft)
ภายในคอลัมน์ (ช่วง) ของฝน พายุฟ้าคะนองนี้บ่อยครั้งก่อตัวได้สูงถึง 40,000 - 50,000 ฟุต
ในบริเวณละติจูดกลาง (mid - latitude) และสูงมากกว่านี้ในเขตร้อน บรรยากาศตอนล่างของชั้นสตราโตสเฟียร์
ที่มีเสถียรภาพดีมาก (great stability) เท่านั้นที่สามารถยับยั้งการก่อตัวของเมฆพายุฟ้าคะนองได้
ในทางอุตุนิยมวิทยาพายุฟ้าคะนองแบ่งออกได้เป็นหลายแบบ แล้วแต่ธรรมชาติของกาลอากาศขณะนั้น
เช่น พายุฟ้าคะนองแบบมวลอากาศ (air - mass thunderstorm) พายุฟ้าคะนองในแนวสควอลล์ (squall - thunderstorm)
และพายุฟ้าคะนองแบบแนวปะทะอากาศ (frontal thunderstorm)
การเกิดของพายุฟ้าคะนอง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดพายุฟ้าคะนองได้แก่
- อากาศมีความชื้นสูง และ
- อากาศไม่มีการทรงตัวหรือไม่มีเสถียรภาพ (instability) หรือ อากาศไม่มีเสถียรภาพแบบมีเงื่อนไข (Conditional Instability)
- มีแรงยกที่ทำให้อากาศลอยตัวขึ้น (Lifting Action) เช่น แรงที่เกิดจากพาความร้อนในแนวดิ่ง แนวปะทะอากาศชนิดใดชนิดหนึ่ง
แนวเทือกเขา แนวลมพัดสอบเข้าหากัน
ระยะของการเกิดพายุฟ้าคะนองอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นดังนี้
ระยะเวลาการเกิดพายุฟ้าคะนองเซลเดี่ยวๆ (Single Cell) โดยแบ่งช่วงตามขั้นตอนการเกิดดังนี้
- ขั้นคิวมูลัส ใช้เวลา 10-15 นาที
- ขั้นเจริญเติบโตเต็มที่ ใช้เวลา 15-30 นาที
- ขั้นสลายตัว ใช้เวลา 30 นาที
พายุฟ้าคะนองกับผลกระทบต่อการบิน
พายุฟ้าคะนองเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่มีอันตรายอย่างยิ่งต่อเครื่องบินที่กำลังทำการบินอยู่ในอากาศทั้งในขณะบิน
อยู่ในเส้นทางบิน หรือขณะบินขึ้น-ลงสนามบิน เพราะในพายุฟ้าคะนองมีสภาวะอากาศที่เลวร้ายที่สุด มีลมกระโชกรุนแรง
มีกระแสอากาศพัดขึ้น-ลงรุนแรงทำให้เครื่องบินที่บินผ่านเข้าไป หรือบินอยู่ใกล้เคียงได้รับความปั่นป่วน กระเทือน รู้สึกถูกกระแทก
ทำให้ความสูงของเครื่องบินเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งที่นักบินไม่สามารถรักษาระดับบินไว้ได้เป็นเหตุให้เครื่องบิน ประสบอุบัติเหตุ ตกมาแล้วมากมาย บางครั้งเครื่องบินจะได้รับอันตรายจากลูกเห็บด้วย และมีน้ำแข็งเกาะจับเครื่องบินอย่างรุนแรงด้วย
ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเครื่องบินหากเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยงการบินผ่านเข้าไปในพายุฝนฟ้าคะนอง ในวันหนึ่งๆทั่วโลก มีพายุฝนฟ้าคะนอง เกิดขึ้นประมาณ44,000ครั้ง โดยเฉพาะในเขตร้อนมีเกิดขึ้นแทบทุกวัน ดังนั้นโอกาสที่นักบินแต่ละเที่ยวบิน จะประสบ กับพายุฝนฟ้าคะนองมีสูงมาก ดังนั้นความรู้เกี่ยวกับพายุฟ้าคะนองและระเบียบปฎิบัติต่างๆในการบินเมื่อพบ
พายุฟ้าคะนองจะช่วยให้นักบินสามารถผ่านพ้นพายุฟ้าคะนองได้อย่างปลอดภัย
ทางด้านหน้าของพายุฝนฟ้าคะนองจะมีอากาศไหลลงอย่างรุนแรง
ที่มา : Http://Www.Physicalgeography.Net/Fundamentals/7t.Html (Photo ? 2004 David Jenkins).
ข้อแนะนำสำหรับนักบินเมื่อต้องเผชิญกับพายุฟ้าคะนอง
1.นักบินที่ทำการบินด้วยเครื่องบินขนาดเล็ก ควรหลีกเลี่ยงพายุฟ้าคะนองทั้งหมด
2.นักบินที่ทำการบินด้วยเครื่องบินขนาดใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงพายุฟ้าคะนองเช่นเดียวกัน เพราะความปลอดภัยของเครื่องบิน
ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องบิน
3.ขณะทำการบินรอบๆพายุฟ้าคะนอง ไม่ควรเสี่ยงเข้าไปใกล้บริเวณที่เกิดพายุฟ้าคะนองขั้นเจริญเติบโตเต็มทีใกล้กว่า 5 ไมล์
เพราะอาจประสบกับลูกเห็บที่ถูกกระแสอากาศไหลขึ้นในพายุฟ้า คะนองเหวี่ยงออกมาได้
4.ไม่ควรทำการบินใต้พายุฟ้าคะนองที่เกิดจากลักษณะภูมิประเทศ ถึงแม้ว่า จะมองเห็นอีกด้านหนึ่งของภูเขาก็ตาม
เพราะการเกิดพายุฟ้าคะนองชนิดนี้ได้ ลมจะต้องมีกำลังแรงมาก เพื่อให้เกิดแรงยกซึ่งอาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนที่เต็มไปด้วย
อันตรายระหว่างยอดภูเขาได้ เนื่องจากความปั่นป่วนนี้ได้ผนวกกับกระแสอากาศไหลลง ทำให้มีโอกาสที่จะเป็นอันตราย
ต่อเครื่องบินมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่ช่วยในการตัดสินใจของนักบินว่า จะเสี่ยงทำการบินในบริเวณที่มีพายุฟ้าคะนองกำลังเกิดขึ้นหรือไม่
1.ประสบการณ์ของนักบินเองในการบินผ่านพายุฟ้าคะนอง
2.ชนิดของเครื่องบินและขีดจำกัดที่จะทนได้
3.ความสูงและสภาพของเมฆพายุฟ้าคะนองที่ปรากฏให้เห็นในจอเรดาร์ของเครื่องบิน ถ้าสูงตั้งแต่ 35000 ฟุตขึ้นไป
ควรหลีกเลี่ยงโดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอื่นๆ เพราะมีอันตรายรุนแรงที่สุด